Skip to Content

ป. 138/2553 เรื่อง การยื่นแบบและการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 83/5 แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อ 1 ให้ยกเลิกคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 87/2542 เรื่อง การยื่นแบบและการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 83/5 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2542ข้อ 2 กรณีที่ผู้ทอดตลาดไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการหรือไม่ใช่ส่วนราชการ ได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียน ให้ผู้ทอดตลาดดังกล่าว มีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยยื่นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 36) ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สินมีหน้าที่ต้องเสียต่อกรมสรรพากร ภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่ขายทอดตลาด

คำสั่งกรมสรรพากร

ที่ ป. 138/2553

เรื่อง การยื่นแบบและการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 83/5 แห่งประมวลรัษฎากร


เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับกรณีการยื่นแบบและการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 83/5 แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 87/2542 เรื่อง การยื่นแบบและการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 83/5 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2542

ข้อ 2 กรณีที่ผู้ทอดตลาดไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการหรือไม่ใช่ส่วนราชการ ได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียน ให้ผู้ทอดตลาดดังกล่าว มีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยยื่นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 36) ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สินมีหน้าที่ต้องเสียต่อกรมสรรพากร ภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่ขายทอดตลาด

ราคาของทรัพย์สินในการขายทอดตลาด ตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่า เป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

ข้อ 3 ผู้ทอดตลาดที่เป็นส่วนราชการ ต้องจัดทำใบเสร็จรับเงินและส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อในการขายทอดตลาด พร้อมทั้งจัดทำสำเนาใบเสร็จรับเงินและส่งมอบให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สินตามมาตรา 83/5 วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร

ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สินที่ได้รับสำเนาใบเสร็จรับเงินจากส่วนราชการตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องนำมูลค่าของทรัพย์สินและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มตามสำเนาใบเสร็จรับเงินไปลงรายการในรายงานภาษีขายตามมาตรา 87 (1) แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ต้องนำมูลค่าของทรัพย์สินและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 30) ตามมาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร

ใบเสร็จรับเงินตามวรรคหนึ่ง เป็นใบกำกับภาษีตามมาตรา 77/1 (22) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อ 4 ผู้ทอดตลาดที่ไม่ใช่ส่วนราชการ ต้องจัดทำใบกำกับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สิน ตามมาตรา 86/3 แห่งประมวลรัษฎากรและส่งมอบต้นฉบับใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อในการขายทอดตลาดพร้อมทั้งส่งมอบสำเนาใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สิน

ผู้ทอดตลาดที่ไม่ใช่ส่วนราชการตามวรรคหนึ่ง หมายถึง ผู้ดำเนินการในการขายทอดตลาดซึ่งประกอบกิจการเป็นอาชีพตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจการขายทอดตลาดการจัดทำใบกำกับภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้แบบพิมพ์ใบกำกับภาษีของผู้ทอดตลาด และต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้

(1) คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด

(2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ทอดตลาดที่จัดทำใบกำกับภาษี

(3) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งรายการดังกล่าวจะตีพิมพ์ จัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ประทับด้วยตรายาง เขียนด้วยหมึก พิมพ์ดีด หรือทำให้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีการอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันก็ได้

(4) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อทรัพย์สิน

(5) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)

(6) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของทรัพย์สิน

(7) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของทรัพย์สิน โดยให้แยกออกจากมูลค่าของทรัพย์สินให้ชัดแจ้ง

(8) วัน เดือน ปี ที่จัดทำใบกำกับภาษี

ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สินซึ่งได้รับสำเนาใบกำกับภาษีจากผู้ทอดตลาดที่ไม่ใช่ส่วนราชการ ไม่ต้องนำมูลค่าของทรัพย์สินและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มตามสำเนาใบกำกับภาษีไปลงรายการในรายงานภาษีขายตามมาตรา 87 (1) แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ต้องนำมูลค่าของทรัพย์สินและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 30) ตามมาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร

ให้ผู้ทอดตลาดตามวรรคหนึ่ง ส่งมอบต้นฉบับใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สิน และถ่ายเอกสารใบเสร็จรับเงินดังกล่าว เก็บรักษาไว้พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจสอบได้ทันที

ข้อ 5 กรณีที่ส่วนราชการขายทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ถูกยึดมาตามกฎหมายโดยวิธีอื่นนอกจากการขายทอดตลาด ส่วนราชการ ผู้ประกอบการจดทะเบียนเจ้าของทรัพย์สิน และผู้ซื้อในการขายทอดตลาด ยังคงมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามข้อ 2 และ ข้อ 3

ข้อ 6 กรณีที่ส่วนราชการขายทอดตลาดทรัพย์สินตามข้อ 2 ข้อ 3 และข้อ 5 ไม่รวมถึงการขายของลักลอบหนีศุลกากร หรือการขายทรัพย์สินของส่วนราชการซึ่งตามกฎหมายต้องดำเนินการขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีอื่นก่อนที่ของหรือทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของแผ่นดิน

ข้อ 7 ระเบียบ คำสั่ง หนังสือตอบข้อหารือ หรือแนวทางปฏิบัติใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้เป็นอันยกเลิก

ข้อ 8 คำสั่งนี้ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ที่ลงในคำสั่งนี้เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วินัย วิทวัสการเวช

(นายวินัย วิทวัสการเวช)

อธิบดีกรมสรรพากร

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)