พิธีสาร
ในการลงนามความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วน ที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ผู้ลงนามข้างท้ายได้เห็นพ้องกับบทบัญญัติดังต่อไปนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของความตกลง 1. อ้างถึงข้อ 7 (กำไรจากธุรกิจ) เป็นที่เข้าใจว่าถ้าเจ้าหน้าที่ภาษีอากรของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งมีข้อมูลไม่เพียงพอในการกำหนดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของสถานประกอบการถาวร ไม่มีข้อความใดในข้อนี้จะมีผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมายใดๆ ของรัฐนั้นที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดภาระในการเสียภาษีอากรของบุคคล โดยที่กฎหมายนั้นจะสามารถใช้ควบคู่ไปกับหลักการของบทบัญญัติในข้อนี้ ตราบเท่าที่ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ภาษีอากรมีอยู่ 2. อ้างถึงข้อ 8 (การเจรจาระหว่างประเทศ) เป็นที่เข้าใจว่า หากภายใต้อนุสัญญา ความตกลง หรือพิธีสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษีซ้อนระหว่างประเทศกัมพูชาและอีกรัฐหนึ่งที่ได้ตกลงกันหลังจากการลงนามในความตกลงนี้ ประเทศกัมพูชาจัดเก็บภาษีจากเงินได้หรือกำไรจากการดำเนินการทางยานพาหนะทางถนน หรือทางรางในการจราจรระหว่างประเทศต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในความตกลงฉบับนี้ ภาษีที่ต่ำกว่าที่ประเทศกัมพูชาใช้ภายใต้อนุสัญญาความตกลง หรือพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับภาษีซ้อนกับอีกรัฐหนึ่งนั้น จะนำมาใช้ภายใต้ความตกลงฉบับนี้ โดยมีผลนับจากวันที่อนุสัญญาความตกลง หรือพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับภาษี ซ้อนกับ อีกรัฐหนึ่งนั้นมีผลใช้บังคับ หรือวันที่ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ แล้วแต่ว่าฉบับใดล่าสุด 3. อ้างถึงวรรค 3 ข้อ 13 (ค่าธรรมเนียมสำหรับการบริการทางเทคนิค) เป็นที่เข้าใจว่า (1) ในกรณีการให้บริการทางการจัดการ ผู้ให้บริการต้องจัดให้มีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ อย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์และนโยบายทางการจัดการ ทางการดำเนินการหรือทาง ธุรกิจของวิสาหกิจ และจัดให้มีความช่วยเหลือทางการจัดการอย่างมีนัยสำคัญในการ ให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์และนโยบายทางการจัดกา ร ทางการดำเนินการหรือทางธุรกิจของวิสาหกิจ (2) ในกรณีการบริการทางเทคนิค หรือการบริการให้คำปรึกษา ผู้ให้บริการต้องจัดให้มีและนำไปใช้ต่อได้ซึ่งความรู้เชิงเทคนิค ประสบการณ์ ทักษะ องค์ความรู้ หรือกระบวนการ หรือ ประกอบด้วยการพัฒนาหรือการถ่ายทอดแผนการทางเทคนิค หรือการออกแบบทางเทคนิค 4. ในกรณีที่ทั้งข้อ 12 และข้อ 13 อาจใช้บังคับได้สำหรับค่าตอบแทนที่จ่ายสำหรับการบริการทางการ จัดการ การบริการทางเทคนิค หรือการบริการให้คำปรึกษาให้นำข้อ 13 มาใช้บังคับเพื่อเป็นพยานแก่การนี้ผู้ลงนามข้างท้ายซึ่งได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้องจากรัฐบาลแต่ละรัฐ ได้ลงนาม ในความตกลงนี้ ทำคู่กันเป็นสองฉบับที่................... เมื่อวันที่ .......................คริสตศักราช สองพัน................. เป็นภาษาอังกฤษ ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย |