Skip to Content

ข้อ 10 เงินปันผล

  1. เงินปันผลที่บริษัทซึ่งเป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งจ่ายให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งอาจเก็บภาษีได้ในรัฐอีกรัฐหนึ่งนั้น
  2. เงินปันผลที่บริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศแคนาดา จ่ายให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าของผู้รับประโยชน์จากเงินปันผล อาจเก็บภาษีในประเทศแคนาดาตามกฎหมายของประเทศแคนาดา แต่ภาษีที่เก็บจะไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินปันผลทั้งสิ้น บทบัญญัติในวรรคนี้จะไม่กระทบกระเทือนต่อการเก็บภาษีจากบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับกำไรที่ใช้จ่ายเป็นเงินปันผลนั้น
  3. เงินปันผลที่บริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยจ่ายให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศแคนาดาซึ่งเป็นเจ้าของผู้รับประโยชน์จากเงินปันผล อาจเก็บภาษีได้ในประเทศไทยตามกฎหมายของประเทศไทยแต่ถ้าผู้รับเงินปันผลเป็นบริษัท ไม่รวมห้างหุ้นส่วน ที่ถือหุ้นโดยตรงอย่างน้อยร้อยละ 25 ของทุนของบริษัทไทย ภาษีที่เรียกเก็บจะต้องไม่เกิน

                (ก)          ร้อยละ 15 ของเงินปันผลทั้งสิ้น ถ้าบริษัทไทยผู้จ่ายเงินปันผลดำเนินกิจการ อุตสาหกรรม

                (ข)          ร้อยละ 20 ของเงินปันผลทั้งสิ้นในกรณีอื่นๆ ทั้งปวง

                บทบัญญัติในวรรคนี้จะไม่กระทบกระเทือนต่อการเก็บภาษีจากบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับกำไรที่ใช้จ่ายเป็นเงินปันผลนั้น

  1. คำว่า "เงินปันผล" ดังที่ใช้ในข้อนี้ หมายถึง เงินได้จากหุ้น หุ้นเหมืองแร่ หุ้นของผู้ก่อตั้งหรือสิทธิอื่นๆ ซึ่งมิใช่สิทธิเรียกร้องหนี้ อันมีส่วนในผลกำไร รวมทั้งเงินได้ที่อยู่ภายใต้การบังคับจัดเก็บภาษีเช่นเดียวกับเงินได้จากหุ้นตามกฎหมายของรัฐซึ่งบริษัทที่ทำการแบ่งสรรเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่
  2. คำว่า "กิจการอุตสาหกรรม" ดังที่ใช้ในข้อนี้ หมายถึง

                (ก)          กิจการใดๆ ซึ่งประกอบ

                               (1)          การหัตถกรรม การประกอบ และการแปรรูป

                               (2)          การก่อสร้าง วิศวกรรมโยธา และการต่อเรือ

                               (3)          การผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานจากน้ำ ก๊าซ หรือการส่งน้ำ หรือ

                               (4)          การเกษตร การป่าไม้ การประมง และการทำไร่ทำสวน และ

                (ข)          กิจการอื่นใด ซึ่งมีสิทธิได้รับเอกสิทธิ์ตามกฎหมายของประเทศไทยว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ทางอุตสาหกรรม และ

                (ค)          กิจการอื่นใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทย อาจประกาศให้เป็น "กิจการอุตสาหกรรม"  เพื่อความมุ่งประสงค์ของข้อนี้

 

  1. บทบัญญัติของวรรค 1, 2 และ 3 จะไม่ใช้บังคับ ถ้าเจ้าของผู้รับผลประโยชน์จากเงินปันผลซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ประกอบธุรกิจในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งซึ่งบริษัทที่จ่ายเงินปันผลนั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ โดยผ่านสถานประกอบการถาวรที่ตั้งอยู่ในรัฐนั้น หรือประกอบการบริการส่วนบุคคลอิสระในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งจากฐานประกอบการประจำที่ตั้งอยู่ในอีกรัฐหนึ่งนั้น และการถือหุ้นในส่วนที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้นเกี่ยวข้องในประการสำคัญกับสถานประกอบการถาวร หรือฐานประกอบการประจำเช่นว่านั้น ในกรณีเช่นนี้ให้ใช้บทบัญญัติของข้อ 7 หรือข้อ 14 บังคับแล้วแต่กรณี
  2. ในกรณีที่บริษัท ซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ได้รับเงินกำไรหรือเงินได้จากรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง รัฐอีกรัฐหนึ่งนั้นจะต้องไม่ตั้งบังคับจัดเก็บภาษีใดๆ จากเงินปันผลที่บริษัทจ่าย เว้นแต่ตราบเท่าที่ได้จ่ายเงินปันผลนั้นให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐอีกรัฐหนึ่งหรือตราบเท่าที่การถือหุ้นในส่วนที่เกี่ยวกับเงินเงินปันผลที่จ่ายนั้น ได้เกี่ยวข้องในประการสำคัญกับสถานประกอบการถาวรหรือฐานประกอบการประจำที่ตั้งอยู่ในรัฐอีกรัฐหนึ่งนั้นและจะไม่กำหนดให้กำไรที่ยังมิได้แบ่งสรรของบริษัทต้องเสียภาษีกำไรที่ยังมิได้แบ่งสรร แม้ว่าเงินปันผลที่จ่ายหรือกำไรที่ยังมิได้แบ่งสรรนั้นจะประกอบขึ้นด้วยกำไร หรือเงินได้ที่เกิดขึ้นในรัฐอีกรัฐหนึ่งนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม
  3. โดยไม่คำนึงถึงบทบัญญัติในอนุสัญญานี้

                (ก)          บริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยและมีสถานประกอบการถาวรในประเทศแคนาดาตามบทบัญญัติของกฎหมายแคนาดา ยังคงต้องเสียภาษีเพิ่มเติมที่เก็บจากบริษัทนอกเหนือไปจาก บรรษัทแคนาดา แต่อัตราภาษีเช่นว่านั้นต้องไม่เกินกว่าร้อยละ 15

                (ข)          บริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศแคนาดาและมีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย ยังคงต้องเสียภาษีในการส่งกำไรออกจากประเทศไทยตามบทบัญญัติของกฎหมายไทย แต่อัตราภาษีเช่นว่านั้นจะต้องไม่เกินร้อยละ 25

 

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)