Skip to Content

ข้อ 9 วิสาหกิจในเครือเดียวกัน

  1. ในกรณีที่

                (ก)          วิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งเข้าร่วมโดยตรงหรือโดยทางอ้อมในการจัดการควบคุมหรือร่วมทุนของวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง หรือ

                (ข)          กลุ่มบุคคลเดียวกันเข้าร่วมโดยตรงโดยทางอ้อม ในการจัดการ ควบคุมหรือร่วมทุนของวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง และวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง และในกรณีหนึ่งกรณีใดที่ได้มีการวางหรือตั้งบังคับเงื่อนไขระหว่างวิสาหกิจทั้งสอง ในด้านความสัมพันธ์ทางการพาณิชย์หรือการเงินซึ่งแตกต่างไปจากเงื่อนไขอันพึงมีระหว่างวิสาหกิจอิสระ ในกรณีนั้นกำไรใดๆ ซึ่งควรจะมีแก่วิสาหกิจหนึ่งหากมิได้มีเงื่อนไขเหล่านั้นแต่มิได้มีขึ้นโดยเหตุแห่งเงื่อนไขเหล่านั้นอาจรวมเข้าเป็นกำไรของวิสาหกิจนั้นและเก็บภาษีได้ตามนั้น

  1. ในกรณีที่รัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งรวมไว้ซึ่งกำไรของวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งที่ได้เสียภาษีไว้แล้วในอีกรัฐหนึ่งนั้น เข้าเป็นกำไรของวิสาหกิจแห่งรัฐของตนและจัดเก็บภาษีจากยอดกำไรเช่นว่านั้นและกำไรที่ได้รวมไว้เป็นกำไรซึ่งจะมีแก่วิสาหกิจของรัฐที่กล่าวถึงรัฐแรก ถ้าหากว่าเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดขึ้นระหว่างวิสาหกิจทั้งสองเป็นเงื่อนไขที่จะมีขึ้นระหว่างวิสาหกิจอิสระ รัฐอีกรัฐหนึ่งนั้นจะปรับปรุงจำนวนภาษีที่จัดเก็บจากกำไรเหล่านั้นให้เหมาะสม ในการกำหนดปรับปรุงเช่นว่านั้นต้องคำนึงถึงบทบัญญัติอื่นๆ แห่งอนุสัญญานี้ด้วยตามควร
  2. รัฐผู้ทำสัญญาจะไม่เปลี่ยนแปลงกำไรของวิสาหกิจในสภาวการณ์ที่ได้กล่าวถึงในวรรค 1 หลังจากการสิ้นสุดเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายของรัฐนั้น และในกรณีใดก็ตาม หลังจากหกปี นับจากวันสิ้นปีที่กำไรซึ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงนั้นได้เกิดขึ้นแก่วิสาหกิจของรัฐนั้น
  3. บทบัญญัติในวรรค 2 และ 3 ไม่ใช้บังคับกับกรณีการฉ้อโกง การไม่ชำระหนี้โดยจงใจหรือการละเลยรวมทั้งกรณีที่วิสาหกิจมิได้ยื่นแบบแสดงรายการ ภายในเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายของรัฐที่วิสาหกิจนั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่

Get notified when new articles are added to the knowledge base.

Powered by PHPKB (Knowledge Base Software)