ป. 53/2537 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยานและสำหรับกิจการให้บริการเป็นตัวแทนขายตั๋วโดยสาร
รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการรับขนคนโดยสารซึ่งเรียกเก็บจากคนโดยสาร ทั้งในกรณีที่บริษัทสายการบินต่างประเทศขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยตรงและในกรณีที่บริษัทสายการบินต่างประเทศขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยผ่านตัวแทน โดยไม่คำนึงว่า รายได้ดังกล่าวจะมากกว่าหรือน้อยกว่าราคาค่าโดยสารที่ระบุในตั๋วโดยสาร คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 53/2537 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยานและสำหรับกิจการให้บริการเป็นตัวแทนขายตั๋วโดยสาร เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติเดียวกันในการตรวจและแนะนำสำหรับกรณีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม ในการขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการ โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยาน และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการเป็นตัวแทนของบริษัทสายการบิน และโดยที่ตัวแทนนั้นเป็นตัวแทนของบริษัทสายการบินไม่ใช่ตัวแทนของผู้ใช้บริการโดยสาร กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการตรวจและแนะนำดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยานบริษัทสายการบินต่างประเทศจะต้องนำค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในประเทศไทยก่อนหักรายจ่ายใด ๆ เนื่องในการรับขนคนโดยสารมารวมคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการรับขนคนโดยสารซึ่งเรียกเก็บจากคนโดยสาร ทั้งในกรณีที่บริษัทสายการบินต่างประเทศขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยตรงและในกรณีที่บริษัทสายการบินต่างประเทศขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยผ่านตัวแทน โดยไม่คำนึงว่า รายได้ดังกล่าวจะมากกว่าหรือน้อยกว่าราคาค่าโดยสารที่ระบุในตั๋วโดยสาร ข้อ 2 ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยาน รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการรับขนคนโดยสารซึ่งเรียกเก็บจากคนโดยสาร ทั้งในกรณีที่บริษัทสายการบินขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยตรงและในกรณีที่บริษัทสายการบินขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยผ่านตัวแทน โดยไม่คำนึงว่ารายได้ดังกล่าวจะมากกว่าหรือน้อยกว่าราคาค่าโดยสารที่ระบุในตั๋วโดยสาร ข้อ 3 ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยาน บริษัทสายการบินจะต้องนำมูลค่าของค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในราชอาณาจักรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ เนื่องในการรับขนคนโดยสารมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79/1(2) แห่งประมวลรัษฎากร มูลค่าของค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในราชอาณาจักรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ เนื่องในการรับขนคนโดยสาร ตามวรรคหนึ่ง หมายถึง รายได้ที่ได้รับจากการรับขนคนโดยสารซึ่งเรียกเก็บจากคนโดยสาร ทั้งในกรณีที่บริษัทสายการบินขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยตรงและในกรณีที่บริษัทสายการบินขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยผ่านตัวแทน โดยไม่คำนึงว่ารายได้ดังกล่าวจะมากกว่าหรือน้อยกว่าราคาค่าโดยสารที่ระบุในตั๋วโดยสาร ในการปฏิบัติตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยาน มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากรให้คนโดยสาร ทั้งในกรณีที่ได้ขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยตรงและในกรณีที่ได้ขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารโดยผ่านตัวแทน ข้อ 4 ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งประกอบกิจการให้บริการขายตั๋วโดยสารโดยเป็นตัวแทนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (1) ในกรณีที่เป็นตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการเป็นตัวแทนขายตั๋วโดยสารให้บริษัทสายการบิน โดยให้คำนวณจากค่าบริการที่ได้เรียกเก็บจากบริษัทสายการบิน (2) ในกรณีที่เป็นตัวแทนช่วง (ก) กรณีตัวแทนช่วงเป็นผู้ให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากรแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากรหมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง โดยให้คำนวณจากค่าบริการที่ได้เรียกเก็บจากตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งจากบริษัทสายการบิน (ข) กรณีตัวแทนช่วงเป็นผู้ให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร แก่คนโดยสารซึ่งใช้บริการโดยสาร โดยมิได้ให้บริการแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง รายได้ที่ต้องนำมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง รายได้ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการแก่คนโดยสารซึ่งใช้บริการโดยสาร โดยให้คำนวณจากค่าบริการที่ได้เรียกเก็บจากคนโดยสาร ข้อ 5 ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียน ซึ่งประกอบกิจการให้บริการขายตั๋วโดยสารโดยเป็นตัวแทนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการให้บริการรับขนคนโดยสารระหว่างประเทศโดยอากาศยาน (1) ในกรณีที่เป็นตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากรหมายถึง มูลค่าของค่าบริการที่ได้รับจากการให้บริการเป็นตัวแทนขายตั๋วโดยสารให้บริษัทสายการบิน โดยให้คำนวณจากค่าบริการที่ได้เรียกเก็บจากบริษัทสายการบิน และตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าบริการดังกล่าวให้บริษัทสายการบิน (2) ในกรณีที่เป็นตัวแทนช่วง (ก) กรณีตัวแทนช่วงเป็นผู้ให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากรแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง มูลค่าของค่าบริการที่ได้รับจากการให้บริการเป็นตัวแทนขายตั๋วโดยสารให้ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง โดยให้คำนวณจากค่าบริการที่ได้เรียกเก็บจากตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งจากบริษัทสายการบิน และตัวแทนช่วงมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าบริการดังกล่าวให้ตัวแทน (ข) กรณีตัวแทนช่วงเป็นผู้ให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร แก่คนโดยสารซึ่งใช้บริการโดยสาร โดยมิได้ให้บริการแก่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง ค่าบริการที่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึง มูลค่าของค่าบริการที่ได้รับจากการให้บริการซื้อตั๋วโดยสารให้แก่คนโดยสาร โดยให้คำนวณจากค่าบริการที่ได้เรียกเก็บจากคนโดยสาร และตัวแทนช่วงมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี ตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าบริการให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการ โดยให้แยกออกจากใบกำกับภาษีที่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งออกให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการ สำหรับค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และประโยชน์อื่นใดที่เรียกเก็บในราชอาณาจักรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ เนื่องในการรับขนคนโดยสาร โดยใบกำกับภาษีที่ตัวแทนช่วงออกเพื่อเรียกเก็บค่าบริการดังกล่าวจะต้องระบุให้ชัดแจ้งว่าเป็นค่าบริการสำหรับการซื้อตั๋วโดยสารเลขที่ใด ของบริษัทสายการบินใด ข้อ 6 ในกรณีที่มีระเบียบ คำสั่ง หรือหนังสือสั่งการใด ๆ กำหนดให้ต้องนำใบกำกับภาษีไปใช้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบกรณีต่าง ๆ เช่น การตรวจสอบยัน ให้นำใบกำกับภาษีที่บริษัทสายการบินออกให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการในกรณีบริษัทสายการบินขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการโดยตรง หรือใบกำกับภาษีที่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้ง ออกให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการ ในกรณีบริษัทสายการบินขายตั๋วโดยสารให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการโดยผ่านตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งไปใช้ดำเนินการ สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของใบกำกับภาษีที่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งออกให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการ ให้ทำการตรวจสอบกับหลักฐานรับเงินที่ตัวแทนที่ได้รับแต่งตั้งหรือตัวแทนช่วงออกให้คนโดยสารหรือผู้รับบริการ ข้อ 7 มิให้นำหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 ถึงข้อ 6 มาใช้บังคับในกรณีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งได้รับสิทธิให้ดำเนินการขายตั๋วโดยสารของบริษัทสายการบินใดสายการบินหนึ่งแต่เพียงผู้เดียวให้กับตัวแทนหรือคนโดยสาร โดยได้รับค่าบริการในอัตราที่แน่นอนตามข้อตกลงจากบริษัทสายการบิน คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2538 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 จัตุมงคล โสณกุล อธิบดีกรมสรรพากร |